เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี : Khao Khitchakut, Chanthaburi.

ทริปนี้เป็นบังเอิญมากๆ เพราะพี่ที่รู้จักชวนแบบกะทันหัน เปรี้ยวเดินทางกับเพื่อนรุ่นพี่รวม 13 คนคะ เดินทางออกจากรุงเทพฯ 4 ทุ่ม ตอนแรกก็สงสัยว่าเค้าไปทำอะไรกันเวลานี้น๊า เปรี้ยวเดินทางถึงเขาคิชฌกูฏประมาณตี 1 ครึ่ง โอแม่เจ้าคนมากันเยอะเลย เปรี้ยวเพิ่งจะมาทราบทีหลังว่าที่เปรี้ยวไปนั่นน่ะคนน้อยแล้วนะเนี่ย โอโห...ไม่น่าเชื่อ
เขาคิชฌกูฏ หรือ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ เป็นที่นิยมของคนไทยในการเดินทางมานมัสการรอยพระบาท และรอยพระบาทนี้ก็ประดิษฐานอยู่บนยอดเขา ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 1000 เมตร โดยจะเปิดให้นมัสการตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.-4 เม.ย. ของทุกปีคะ


การเดินทางก่อนขึ้นเขา ก็จะมีจุดให้ไหว้พระก่อนทั้งหมด 9 จุด แต่เปรี้ยวก็ไหว้ไม่ครบนะคะ หุหุ..สมองเริ่มทำงานช้า ง่วงนอน อิอิ เปรี้ยวก็เดินถ่ายรูปเรื่อยไป รอพี่ๆ ที่ไปด้วยกัน

จากนั้นเราก็เดินมาที่ท่ารถเพื่อเดินทางขึ้นเขา โดยเสียค่าเดินทางไป-กลับ 200 บ. รถที่ให้บริการเป็นรถ 4WD มีให้บริการตลอด 24 ชม.คะ การเดินทางน่ากลัวเหมือนกันแต่เราก็ต้องมีศรัทธา เราต้องไม่กลัว หุหุ..

จากนั้นเริ่มเดินคะ จากจุดพักรถด้านบนจนถึงรอยพระบาทก็ประมาณ 1.2 กม.ได้ เปรี้ยวไม่ได้ถ่ายรูปเพราะเหนื่อยหุหุ เลยมีแต่รูปตอนขาลง เปรี้ยวเดินจนถึงยอดใช้เวลา 1 ชม.กับอีกนิดหน่อย อิอิ เปรี้ยวเดินถึงบริเวณที่จะนมัสการรอยพระบาทข้างบนประมาณตี 4 ครึ่งคะ

หลวงพ่อกำลังนำสวดมนต์ คนเยอะมาก เปรี้ยวงี้แทบจะเข้าไปไม่ถึงรอยพระบาทคนเยอะมาก โดนเบียดกระเด็นออกมาเลย หุหุ จากนั้นพอไหว้พระฟังเทศน์จากหลวงพ่อแล้ว เปรี้ยวก็เริ่มเดินลงคะ เปรี้ยวเดินลงมาก็เกือบตี 5 แล้ว เออ..ลืมบอกไปว่า พี่ที่ไปด้วยกันค้าบอกเปรี้ยวว่า สามารถอธิษฐานขอได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น ( อิอิ..เปรี้ยวงี้ต้องรีบตัดสินใจเลยว่าจะอธิษฐานอะไรดี แบบว่าอยากได้หลายอย่าง อิอิ ..ล้อเล่นนะคะ)


อันนี้เป็นตอนขาลงคะ ระยะทางก็มีเป็นบันไดบ้าง สะพานบ้าง ทางขุรขระบ้างก็มี เดินได้สบายๆ ไม่ต้องรีบ เปรี้ยวเห็น รุ่นคุณตา คุณยายเค้าก็เดินกันคะ เรียกว่ามีทุกวัย พี่ที่เดินทางไปด้วยกันบอกว่าดีกว่าแต่ก่อนเยอะมาก แต่เปรี้ยวงี้ตอนขากลับขาแทบจะหมดแรง ..อิอิ




หมอกลงจัดคะ ตอนขาลงทางเดินเริ่มลื่น เพราะน้ำค้างตกลงมาทางเดินเปียกชื้น ต้องค่อยระวังไม่ให้ลื่นล้ม ลืมบอกอีกเรื่องเค้าก็มีไม้เท้าให้บริการนะคะ สามารถยืมได้นะจุดเริ่มเดินข้างล่าง ค่าบริการก็แล้วแต่จิตศรัทธาคะ

เปรี้ยวมาถึงข้างล่างก็ประมาณ 6 โมงเช้าคะ มองข้าวต้มรองท้องได้ก็ตรงไปที่รถคะ นอนรอพี่ๆ ที่เค้ายังมาไม่ถึง ครั้งแรกในชีวิตเลยที่มาเมืองจันทฯ และเดินไปไหว้พระ พร้อมนมัสการรอยพระบาทตอนกลางคืนเลยนะเนี่ย อิอิ

แอบเม้านท์อีกเรื่อง ตอนขากลับลงมาคนเยอะ บางคนก็แซงคิวไปขึ้นรถเฉยเลยทั้งๆ ที่คนอื่นก็รอเหมือนกัน แถมยังเบียดเสียดกันไม่สนใจใครมาก่อนมาหลัง บางคนนะทั้งๆ เห็นว่าเค้าอุ้มเด็กนะ ก็ไม่สนใจเลยแย่งหน้าตาเฉย แย่มากเลยคะ เห็นแล้วเปรี้ยวงี้ปลงเลยทำไมมันต้องแย่งกันขนาดนั้น..ไม่เข้าใจ เปรี้ยวยืนรอจนคนไม่เยอะ รถมาติดๆ กันหลายคัน ก็ค่อยเดินทางลงมาแบบว่าไม่ชอบแย่งกะใคร และนี้ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่เปรี้ยวไม่ชอบไปที่ๆ คนเยอะๆ อิอิ เม้าท์นิดหน่อยอย่างว่ากันนะคะ เป็นไงบ้างคะทริปนี้ของเปรี้ยว

ปีใหม่กับการเริ่มต้นแบบใหม่ที่ต้องไม่เหมือนเดิม

แล้วปีนี้ก็มาถึง อิอิ หมายถึงว่าถึงเวลาที่จะต้องหางานทำ โอ..แม่เจ้า เราจะทำงานอะไรดีน๊า???? ที่กรุงเทพฯ ห่างหายจากการทำงานไปหลายปี ช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ทำโน่นนิดนี่หน่อย เพื่อให้ได้เงินค่าเดินทาง แต่เปรี้ยวรู้อยู่ตลอดเวลาว่าทุกคนต้องทำงาน เพื่ออะไร.. เพื่อพิสูจน์ศักยภาพที่เรามี..แบบว่าให้ดูดี หุหุ

ตื่นแต่เช้าเตรียมตัวทำรีซูเม่ เพื่อส่งจ.ม.รัก เออ!!!! ไม่ใช่จ.ม.สมัครงาน หุหุ บรรยายสรรพคุณอย่างดี ส่งไปที่แรก คืนงานที่พิลิปปินส์ หลังจากนั้น 2 วันเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น โอ..แม่เจ้า 7 โมงเช้า

Hello.. My name is Judy?? โอ๊ะ.. ใครโทรมาตอนนี้นะเนี่ย เสียงภาษาอังกฤษแปลกๆ งง แล้วจูดี้ก็ถามกลับมาว่า " ฉันได้รับอีเมล์จากคุณเรื่องการสมัครงาน ตำแหน่ง .... สะดวกคุยกับฉันรึเปล่าคะ?"



แล้วก็ตอบกลับไปด้วยความงัวเงีย "ได้คะ "

แล้วก็เริ่มต้นคุยกับจูดี้ สุดท้ายจูดี้ถามมาว่า " คุณสามารถเดินทางไปพิลิปินส์ได้ตลอดเวลาเลยใช่ไม๊?? " ตอบกลับไปอีกว่า " จูดี้ทุกอย่างมันเร็วมากเลย ฉันตั้งตัวไม่ทัน ฉันขอเวลาคิดหน่อยได้ไม๊?"
จูดี้ที่อยู่ปลายสายเงียบ....T_T
เค้าก็คงงงว่า อ้าว ยายคนนี้..ตกลงมันจะเอาไงแน่เนี่ย? ไอ้เราก็งงตัวเอง
สุดท้ายบอกไปว่าขอคิดดูก่อน โอ...แม่เจ้า ทำไมเราเป็นคนแบบนี้น๊า เอาล่ะรอดูงานที่กรุงเทพฯ ก่อนถ้าไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที บทสรุปยังอยู่ในสภาพตกงาน ..หุหุ.. เรียบร้อย ตอนบ่ายหันหน้าเข้าพระ^_^ แบบว่าหาที่พึ่งทางใจ หุหุ.. สวดมนต์ ไหว้พระ " สาธุ หลวงพ่อ ขอให้ได้งานทำทีเถิด จะไม่เกี่ยงงานแล้ว"

เริ่มต้นปีใหม่กับเรื่องส่วนตั๊ว ส่วนตัวปีนี้ จากนั้นก็รอโทรศัพท์ต่อไปเริ่มหางานได้ 1 สัปดาห์พอดี จะมีที่ไหนเค้ารับเราบ้างน๊า ..อิอิ เปรี้ยวก็เริ่มปลอบใจตัวเองว่าในเวลาอย่างนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุด ที่เราจะต้องคุยกับตัวเอง ที่สุดแล้วตนต้องเป็นที่พึ่งของตน ไม่มีคำว่าสาย หุหุ..สู้ต่อไป..