ซึ่งงานนี้ลูกชายของท่าน คือท่านทองโกดา โอกา อาตา อราดานา สุกาวาตี จะเป็นผู้ยืนบนปราสาทเพื่อนำขบวน การเคลื่อนย้ายก็ใช้แรงงานคนประมาณ 100 คนในการแบกทุกๆ 100 เมตรจะต้องเปลี่ยนชุด ท่าทางหนักเอาการเลยทีเดียวงานเริ่มประมาณ 10 โมงเช้า แต่จนกว่าปราสาทมาถึงยังลานพิธีปาไป เกือบ 3 โมงเย็น นอกจากในขบวนจะมีปราสาทแล้วก็ยังมีวัวกระทิง หรือ โลง ที่จะนำศพเคลื่อนย้ายมาวางและทำการเผา ซึ่งจะเป็นพิธีเมื่อขบวนมาถึงยังลานพิธีแล้ว
งานนี้ถือว่าเป็นการให้กำลังใจต่อผู้ที่เสียชีวิตและครอบครัวจะไม่มีการโศกเศร้าเสียใจ ไม่มีน้ำตาให้เห็นเลยคะ หนุ่มๆ กลุ่มใหญ่บรรเลงเพลงจากเครื่องดนตรีพื้นเมือง เช่น กำมะลาน ฆ้อง กลอง ฯลฯ เสียงดัง ดนตรีก็มีจังหวะเร้าใจ งานเริ่มตั้งแต่สายจนกระทั่งเย็นก็ได้เวลาอันสำคัญที่สุด
ขั้นตอนรองสุดท้าย เมื่อมาถึงยังลานพิธี โลงซึ่งเป็นรูปวัวกระทิงจะถูกนำมาตั้งยังลานที่เตรียมไว้ จากนั้นเชิญศพของผู้ที่เสียชีวิต พร้อมทั้งข้าวปลาอาหาร เสื้อผ้านำใส่ไว้ข้างในโลง รอจนได้ฤกษ์ก็ถึงเวลาฌาปณกิจ หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของญาติและลูกหลานที่จะนำกระดูกไปลอยอังคาร ส่วนปราสาทนั้นก็เผาในวันถัดมา คนบาหลีให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนของชีวิต เกือบจะทุกเดือนมีพิธีกรรมที่ต้องทำ นอกเหนือจากการสวดมนต์ต่อหน้าพระเจ้าและบรรพบุรุษในทุกๆ วันแล้ว ส่วนงานนี้ก็ถือว่าเป็นงานที่สำคัญมากๆ เลยทีเดียว
สวัสดีครับเปรี้ยว เป็นไงบ้างครับที่โน้นอากาศเป็นไงบ้างครับ แล้วพิธีที่ว่านี้ถือเป็นพุทธไหมครับ หรือเค้านับถือศาสนาไหนครับเปรี้ยว
ReplyDeleteสวัสดีคะ อากาศที่บาหลีอากาศดีคะ แต่ช่วงนี้เดือนธันวาเป็นหน้าฝนแล้ว ฝนจะตกไปจนถึงประมาณกุมภาพันธ์คะ ทีนี่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดูคะ
ReplyDelete