ทานา โทราจา : Rantepao, Tana Toraja Day 1


จากมากัสซา (Makasar) เราเดินทางกันมายัง ทานา โทราจา (Tana Toraja) ที่โทราจา สิ่งที่เป็นจุดน่าสนใจในการเดินทาง คือ ชีวิตหลังความตาย คล้ายกับที่เกาะบาหลี พิธีกรรมงานศพที่มีรายละเอียดซับซ้อน และ บ้านที่มีลักษณะคล้ายกับชาวบาตักที่เกาะสุมาตรา  

การเดินทาง : เราเดินทางด้วยรถปรับอากาศ จากเมืองมากัสซา มายัง เมืองรันเตปาว (Rantepao) ใช้เวลาประมาณ 11-12 ชม. 

เราพักที่เมืองรันเตปาว ที่นี่มีที่พักราคาประหยัดและสะอาดหลายที่ สำหรับแบ็คแพ็คไม่ต้องกลัวว่าจะหาที่พักไม่ได้ ที่พักราคาเริ่มที่ 500 บาท ราคาสบายๆ เราพักที่ Wisma Monton ส่วนอินเตอร์เน็ตก็สามารถใช้ Free Wifi ได้ที่ Aras Cafe ซึ่งเป็นร้านอาหารแห่งเดียวในเมืองที่มีอินเตอร์เน็ต และ มีหลายเมนูให้เลือก ส่วนราคาก็แพงกว่าทั่วไปอยู่แล้ว เรานั่งทานอาหารที่นี่อาศัยว่าได้ใช้อินเตอร์เน็ตติดต่อทางบ้าน รันเตปาวเป็นเมืองเล็กๆ แต่ในเขตทานา โทราจา รันเตปาวเป็นเมืองที่ศูนย์กลางเลยคะ การเดินทางไม่ต้องยุ่งยาก 2 เท้าก้าวเดินง่ายและสะดวกเป็นที่สุด

เราเช่ารถมอเตอร์ไซด์จากร้านหนึ่งในเมือง คิดว่าคงจะขี่เที่ยวรอบๆ เมืองเท่านั้น ที่เมืองนี้สิ่งที่ทำให้เราคิดถึงบาหลี อากาศ บรรยากาศคล้ายกัน โทราจามีสภาพภูมิประเทศเป็นที่สูง ศาสนา ส่วนใหญ่ผู้คนเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์ ตั้งแต่สมัยที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของชาวดัทซ์ ทำให้วัฒนธรรมหลายๆ อย่างสูญหาย คงเหลือแต่เพียงพิธีกรรมเกี่ยวกับงานศพที่ยังหลงเหลือถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์แล้วก็ตาม ส่วนที่เหลือก็นับถือศาสนาอิสลามและนับถือผีและเทพเจ้า ตั้งแต่ดั้งเดิมชาวโทราจาเชื่อในเทพเจ้าหลายองค์ ควาย หรือ กระบือ เป็นสัตว์สัญลักษณ์ของชาวโทราจา และเป็นสัตว์ที่ถูกนำไปเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมหลายๆ พิธี ควายเป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมาย หมายถึง ความมั่งคั่ง สมบัติ และอำนาจ และคงเป็นเหตุผลที่ราคาของกระบือที่นี่จึงมีราคาค่อนข้างสูง




บ้านของคนโทราจา จะมีลักษณะแปลกหลังคาคล้ายเรือ หน้าบ้านต้องประดับด้วยเขาควาย แต่ปัจจุบันบ้านแบบสมัยเดิมจะสร้างให้มีขนาดเล็ก ใช้เป็นยุ้งข้าวมากกว่า เท่าที่เห็นมีไม่มากแล้วที่ยังใช้เป็นที่อยู่อาศัย

ศิวลึงค์

เราผ่านมายังหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง เลยแวะมาดูสุสาน ที่นี่เค้าจะใช้วิธีการฝังศพโดยเฉพาะฝังในหินคะ เท่าที่ทราบมาก ชาวโทราจาจะให้ความสำคัญกับการทำพิธีศพเป็นอย่างมาก โดยหลังจากเสียชีวิตจะมีพิธีกรรมในทันที หลังจากนั้นก็จะมีการตกลงกับภายในครอบครัวเพื่อจัดงานใหญ่อีกครั้งเพราะความเชื่อที่ว่าวิญญาณผู้ตายจะได้พอใจและจะได้นำสิ่งดีๆ มายังคนในครอบครัวที่ยังมีชีวิตอยู่



เรากลับเข้าเมืองตอนบ่ายแก่ๆ เพื่อติดต่อไกด์นำเที่ยวและรถเช่า เพราะเรารู้มาว่าจะมีงานศพที่เมืองใกล้ๆ และคงจะดีถ้าจะมีใครที่มีข้อมูลพาเที่ยว และอีกเหตุผลคือ งานศพเป็นสิ่งที่เราหวังจะได้เห็นที่โทราจา เราติดต่อไกด์ชื่อ นิคโก คะ อายุประมาณ 50 กว่าที่เราเลือกเพราะดูจะเป็นคนที่มีข้อมูลดีดีเยอะ แต่โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบอีตาลุงนี่เท่าไหร่ หุหุ ราคาค่าไกด์ รวมค่าเช่ารถ ราคาประมาณ 6500 บาท 3 วัน สำหรับเราก็พอใจกับราคานี้พอสมควร หารกัน 4 คน




ช่วงที่เรามาถึงเป็นช่วงเข้าหน้าฝน ข้าวในนาสวยมาก แต่เรื่องที่ไม่ดี คือ พอ 4 โมงเย็นทีไรฝนตกทุกที และถ้าใครที่ชอบเดินตลาดนะคะ ที่รันเตปาวมีตลาดใหญ่ เล็ก 2-3 แห่ง น่าเที่ยวมาก



อันนี้พริกนะคะ เราเห็นครั้งแรกคิดว่าเป็นลูกเชอรี่สีน่ากินมากๆ

No comments:

Post a Comment