เดินทางไปเกาะลมบก : Lombok, Indonesia.

หลังจากที่พักอยู่บนเกาะบาหลีได้ 1 สัปดาห์ เปรี้ยวก็ออกเดินทางไปยังเกาะลมบก ( Lombok ) เกาะลมบกอยู่ด้านหลังเกาะบาหลี มีคนบอกมาว่าสวยมาก เลยอยากเห็นบ้างว่าเป็นไงจะสวยกว่าบาหลีมากไม๊น๊า!!!!

เปรี้ยวออกเดินทางด้วยรถบัสของบริษัท Perama เวลา 7.00 น.ซึ่งเวลาที่ประเทศไทยก็ประมาณ 6 โมงเช้าใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. ก็ถึงท่าเรือเฟอร์รี่ ปาดังบาย ( Padang Bai ) ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ 4 ชม. โอแม่เจ้า... เรือเฟอร์รี่ที่เปรี้ยวใช้เดินทาง เป็นเรือที่พี่ๆน้องๆชาวอินโดฯ เดินทางกันเป็นประจำ ราคาไม่แพงคะ ราคา 31000 Rp. ตอนที่มาถึงก็จะเจอพี่ตัวดำๆเรียก ticket ๆๆ เราก็งง จะเดินไปที่ขายตั๋วก็ไม่ขายให้ พี่ตัวดำพาเราเดินไปที่ขายตั๋วลึกลับ น่ากลัวมาก พอยื่นตัวให้ 2 ใบก็โล่งใจ ตอนแรกก็ตกใจ กลัวถูกหลอกอีก อิอิ

พอขึ้นไปบนเรือเฟอร์รี่ก็จะได้เจอกับอีกที่สนใจ มีของขายเยอะมาก ตั้งแต่น้ำดื่มที่ราคาแพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ข้าว ถั่วต้ม เสื้อยืด ผ้าทอ และถ้าเราไม่สนใจหรือบอกว่าไม่ซื้อ ไม่ดู ก็มีงอนนิดๆ มีเพลงร้องให้ฟัง ซึ่งสุดท้ายถามเอาเงินเฉยเลยอ่ะ งง แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ารักดี





Padang Bai

Bye Bye;))) Bali.

เราได้เพื่อนชื่อ มัส มาจากอังกฤษ เดินทางด้วยมอเตอร์ไซด์ แกก็บ่นว่าไม่ค่อยมีคนเข้าใจว่ามัสพูดว่าอะไร สมควรแล้วแหละ พี่แกพูดสไตล์อังกฤษขนาดนั้น เราเองก็มึนเหมือนกัน หุหุ และเราก็ได้มีโอกาสนั่งคุยกับทูดี้ เป็นคนอินโดฯ ที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีมากๆ ทูดี้เดินทางกับลูกชายชื่อไมเคิล อายุน่าจะประมาณ ขวบกว่าๆ เธอเดินทางกลับที่เกาะซุบบาวา ( Sumbawa )อยู่ด้านหลังเกาะลมบกอีกทีกว่าจะถึงก็อีก 1 วันได้ ไกลเหลือเกิน ทูดี้บอกว่าเธอเป็นครูคะ สอนอยู่ที่โรงเรียนของรัฐบนเกาะซุบบาวา ที่นั่นมีแต่คนจนเป็นส่วนใหญ่ จึงถือเป็นโชคดีของเธอที่ได้งานนี้ เราคุยกับมัสและทูดี้ สักพักก็นอน ตื่นมาก็ยังไม่ถึงลมบกซักที เริ่มท้อใจกับการเดินทางซะแล้วสิ

จากการเดินทางที่แสนยาวนานสำหรับเปรี้ยว สุดท้ายเราก็มาถึงลมบก หุหุ

Lombok Island;))

เวลาก็บ่ายแก่ เราเดินมองหาเบโม่ ( Bemo ) เพื่อ เดินทางต่อ ทุกคนเรียกราคากันแบบเมามัน แบบว่าเอาให้ตายกันไปเลย แพงมากๆ ฟันราคากันเต็มที เวลาเราพูดตรงก็โกรธอีก

จนสุดท้ายเราเจอผู้ชายคนหนึ่งมาส่งลูกค้าที่เฟอร์รี่ และกำลังจะกลับเซนกีกี ( Senggigi ) ซึ่งเป็นจุดหมายของเปรี้ยวในครั้งนี้ เรียกราคามาที่ 85000 Rp. แต่เราขอลดอีกสุดท้ายก็ได้ราคาที่เราและเค้าต่างพอใจ 50000 Rp.

เดินทางจากท่าเรือมาที่เซนกีกีใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ครึ่ง ท้องฟ้ามืดครึ้มเราลองติดต่อโรมแรม สุดท้ายเราก็เจอ โรงแรมBatu Bolong Hotel ราคา 175000 Rp. ต่อคืน แพงกว่าที่คิดแต่ก็โอเค รวมอาหารเช้าด้วย อิอิ

พอเช็คอินเสร็จฝนก็ตกลงมา มาบาหลีครั้งนี้ฝนตกทุกวันทั้งที่ช่วงนี้เป็นหน้าร้อนแปลกจัง อยากรู้ว่าที่กรุงเทพฯเป็นไงบ้าง


ฟ้าครึ้มมาก ฝนกำลังจะมา

วันที่ 2 ทีเกาะลมบก คืนแรกเข้านอนแต่หัวค่ำ เพราะเหนื่อยจากการเดินทาง เช้าวันใหม่ท้องฟ้าสดใส ถ่ายรูปริมหาดซะหน่อย มองไกลจะเห็นภูเขาอากุงบนเกาะบาหลี สวยจัง







1 comment: