ถ้ำพินดายา ( Pindaya Caves ) เป็นถ้ำหินปูน ซ่อนตัวอยู่ในช่องเขา การเดินทางขึ้นไปที่ถ้ำก็สะดวกสบายจะขึ้นลิฟท์ หรือว่าจะเดินขึ้นก็ได้คะ แต่เปรี้ยวเลือกเดินขึ้นไป เพราะไม่ชอบใช้ลิฟท์ และจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 3 Usd. และค่ากล้อง 300 k ต้องถอดรองเท้ารวมทั้งถุงเท้าด้วย สามารถฝากไว้กับพี่หม่องได้ โดยค่าฝากก็แล้วแต่จิตศรัทธา ภายในถ้ำพินดายามีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำมากกว่า 8000 องค์ และพระพุทธรูปบางองค์มีอายุกว่า 100 ปี ภายในถ้ำมีทางเดินและไฟฟ้าคะเดินสบาย บางแห่งมีน้ำหยดตลอดเวลา พื้นจะลื่นก็ต้องคอยระวัง
พอเปรี้ยวเดินเข้ามาก็ทึ่งมากๆ พระพุทธรูปเยอะมาก สวยมาก สมกับที่เค้าบอกมาว่าต้องมาดู พระพุทธรูปที่ประดิษฐานที่ถ้ำแห่งนี้ ก็มีทั้งคนพม่า และชาวต่างชาติ นำมาถวายกับทางวัด เพื่อนำมาเก็บภายในถ้ำ เปรี้ยวสังเกตดูจะเห็นว่าพระพุทธรูปส่วนใหญ่เป็นปางสมาธิคะ
ที่เมืองพินดายาแห่งนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ที่นี่ จะเป็นชนกลุ่มน้อย เช่น เผ่า Pa-o, Danu, Palaung, Taung-yo ตั้งแต่มาเปรี้ยวได้ยินเกี่ยวกับคนพม่าเรื่องศาสนา พอมาพม่าจริงๆ ก็ได้คำตอบว่าคนพม่ามีความเสื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าเลยจริงๆ เปรี้ยวเดินดูวัดได้สักพักก็ได้เวลาที่เราจะแวะตลาดเพื่อเดินทางต่อไปทะเลสาปอินเล แต่ก่อนไปก็แวะซื้อผ้า ที่ถ้ำพินดายานอกจากจะเป็นที่ตั้งของวัดพินดายา ตรงลานจอดรถก็ยังมีร้านขายสินค้าน่าจะมา 10 กว่าร้านได้ เปรี้ยวเห็นแล้วต้องระงับใจเอาไว้เลย แต่อย่างที่บอกว่าทริปนี้เปรี้ยวประหยัดเงินพอสมควร ก็เลยมีเงินช้อปปิ้ง อิอิ
วิวจากหน้าถ้ำพินดายา
ระหว่างที่เรากำลังจะไปตลาด ก็เจอกับกลุ่มคนเลี้ยงช้าง เลยถือโอกาสถ่ายรูปซะเลย
ระหว่างที่เรากำลังจะไปตลาด ก็เจอกับกลุ่มคนเลี้ยงช้าง เลยถือโอกาสถ่ายรูปซะเลย
เมืองนี้สวยจัง ผู้คนก็ดูเป็นมิตรดี ทริปนี้ใช้เวลากี่วันค่ะ
ReplyDelete^_^ ขอบคุณคะดิว
ReplyDeleteไปพม่าทั้งหมด 2 สัปดาห์คะ ถ้าพูดถึงคนพม่า น่ารักคะ การเดินทางทั้งหมดดีกว่าที่เปรี้ยวคิดไว้เยอะเลย ^_^