ขี่มอเตอร์ไซด์เที่ยวเกาะบาหลีตอนที่ 1 : Pura Besakih, Bali

วันที่ 4 แต่เป็นวันแรกของการเดินทางด้วยมอเตอร์ไซด์ ฝนตกทั้งคืนเลย กลัวว่าจะตกทั้งวัน แต่โชคดีที่สายๆ ฝนก็หยุด เราเช่ามอเตอร์ไซด์จากอากุงได้ จนกว่าอากุงจะหาหมวกกันน็อคให้ก็ปาไป 10 โมงเช้า แพลนเอาไว้ว่าวันนี้จะเดินทางจากอูบุค (Ubud) ถึง เกียนยา (Giangar) ต่อ เมืองกรุงกุง (Klungkung) จากนั้นใช้เส้นทางไปหมู่บ้านสิเดอเมน (Siderman ) ค่อยๆไต่ไปตามภูเขาไฟอากุง ( Mount Agung ) ปัจจุบันก็ยังไม่ดับคะ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,567 เมตร เพื่อไปให้ถึง Pura Bekasih ระยะทาง ไป-กลับ ประมาณ 90 กิโลเมตร เราออกเดินทางตามแผนผ่านเมืองต่างๆ ตามที่แพลนไว้ มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านสิเดอเมน ( Siderman ) ถนนแคบ






นาขั้นบันไดที่ Siderman



แต่เป็นถนนลาดยางอย่างดี เราไต่เขาไปเรื่อยๆ มองเห็นนาขั้นบันได แต่เบื้องหน้ากับมองไม่เห็นยอดภูเขาไฟ อากาศไม่ดีอย่างที่คิดไว้ เราหยุดพักเป็นระยะ ดีที่มอเตอร์ไซด์คันนี้เป็นออโต้ฯ เลยไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ เราเดินทางสู่ยอด ทางเริ่มคดเคี้ยวขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงทางเข้าก็จะเป็นด่าน เพื่อเสียค่าเข้าชม 6000 Rp.ค่าจอดมอเตอร์ไซด์ 1000 Rp. จากด่านเดินทางไปที่จอดรถอีก 300 เมตร เราจอดรถเรียบร้อยก็เดินเท้าไปอีกประมาณ 200 เมตร จากนั้นก็จะเจอหนุ่มน้อยชาวบาหลีรุม ไม่ได้รุมจีบนะคะ อย่าพึ่งเข้าใจผิด อิอิ



ที่วัดแห่งนี้คุณสามารถเดินชมได้โดยต้องมีไกด์ 1 คน ตอนแรกเค้าก็ขอเรา 40000 Rp. ราคาโหดไปเปล่า? เราต่อราคาได้ที่ 20000 Rp. แอบขู่ว่าเราเดินดูเองได้ไม่ยาก เดินตามทางง่ายจะตาย พี่แกก็ไม่ยอม เราบอกว่าจ่ายแค่ 20000 Rp. ไม่งั้นไม่ไป สุดท้ายก็ยอม ที่วัดแห่งนี้สร้างความรำคาญให้นักท่องเที่ยวก็ตรงนี้แหละคะ หลายคนบ่น บางคนโดนจะให้จ่ายค่าไกด์เป็นเงินดอลล่าร์เลยก็มี เปรี้ยวเจอข้อมูลคนไทยที่เค้าไปมาแล้วก็บ่นเหมือนกันคะ Photobucket เรามาต่อเรื่องวัดกันต่อดีกว่า



Pura Besakih แห่งนี้ ถือเป็นวัดที่มีความสำคัญมาก ที่นี่คุณจะต้องนุ่งโสร่งนะคะ (แทบทุกวัดในบาหลี) วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 8 สร้างมานับ 1000 ปี ประกอบด้วยอาคารหลัก 22 วัดหลัก รวม 200 อาคาร ที่วัดแห่งนี้จะมีงานเฉลิมฉลองหรืองานบวงสรวงทุกปี จะไม่มีการจัดพร่ำเพรื่อ แต่สำหรับชาวบาหลีที่ต้องสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือต้องการมาเพื่ออธิษฐานขอพรจากพระเจ้าก็สามารถทำได้ตลอด




ชาวบาหลี เค้าก็มีพิธีกรรมกันเป็นประจำ ก็มากันเป็นขบวนแบบนี้แหละคะ













แอบดูชาวบาหลี เค้ากำลังทำพิธีกรรมกันอยู่






ในปี ค.ศ. 1963 ที่วัดแห่งนี้มีการบวงสรวงใหญ่ และในขณะเดียวกันนั้นเองภูเขาไฟอากุงก็ระเบิด ฆ่าชีวิตผู้คนกว่า 1500 คน ชาวบาหลีจึงมีเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากการลงโทษของพระเจ้า







งานเฉลิมฉลองมีขึ้นประจำปีประมาณ เดือนมีนาคมหรือเดือนเมษายน และมีงานบวงสรวงทุก 10 ปี 100 ปี 1000 ปี ด้วยคะ ข้อมูลน้องไกด์เค้าบอกมาคะ














หนุ่มน้อย คนนี้แหละคะ ไกด์ของเรา สุดท้ายเราก็ให้เงินไป 40,000 Rp. จากที่ตกลงไว้ที่ 20,000 Rp.สงสารน้องที่ต้องมานำเที่ยวเรา หุหุ ก็ขอที่อยู่มาเรียบร้อย เพราะถามเค้าว่าเค้ามีรูปถ่ายของตัวเองหรือเปล่า? น้องเค้าบอกว่าไม่มี เราก็เลยถ่ายรูปเค้ามา สัญญาว่าจะส่งให้ อิอิ หลอกเด็กPhotobucket







จากที่นี่ ฝนทำท่าว่าจะตก เราก็เลยตัดสินใจกลับอูบุด กว่าจะถึงอูบุดก็เกือบ 4 โมงเย็น ฝนตกพอดีเลย




3 comments:

  1. ดีนะที่กลับก่อนแผ่นดินไหว ฉะนั้นน่าจะได้ประสบการณ์จากแผ่นดินไหวด้วย อินโดเป็นเมืองโบราญจริงๆนะดูจากรูปแล้วน่าจะเก่า รักษาดีนะ น่าไปสัมพัสจริง.

    ReplyDelete
  2. ใช่คะ เค้าค่อนข้างรักษา แต่ว่าเปรี้ยวว่าน่าจะคล้ายๆ กับเมืองไทย อันที่รักษาก็ดี อันที่ลืมรักษาก็มีเยอะ แต่ที่บาหลี มันเป็นเหมือนแหล่งรายได้ มันเลยดูดีมากกว่าอินโดนีเซียในภาคอื่นๆ อันนี้ก็ได้ยินมาจากคนอินโดฯมาอีกที เพราะนักการเมืองหลายคนมีรีสอร์ท โรงแรมที่นี่คะ

    ReplyDelete
  3. ที่หลวงพี่ถามถึงเรื่องโสร่งนะคะ คือเปรี้ยวก็ไม่แน่ใจเหมือนกันคะ แต่เท่าที่ทราบคืออาจจะประมาณว่าให้เกียรติสถานที่เพราะผู้ชายที่นี่ เค้าใส่โสร่ง 2 ชั้น เสื้อมีปก และหมวกคะ ส่วนผู้หญิงจะใส่โสร่งหรือผ้าถุง เสื้อขายาวมีผ้าคาดเอว ถ้าเข้าวัดก็ต้องแต่งตัวแบบนี้

    ReplyDelete