วันฟ้าใสที่เกาะพังกอ : Pulau Pangkor, Malaysia.

จากกัวลาลัมเปอร์เราออกเดินทางเวลา 10 โมงเช้า เพื่อมาที่เกาะพังกอ หรือ Pulau Pangkor เป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงกัวลาลัมเปอร์ นั่งรถบัสประมาณ 5 ชม.ก็จะถึงเมือง Lumut จากนั้นนั่ง ferry ไปอีกประมาณ 30 นาที ชื่อเกาะนี้คุ้นๆ ไม๊คะ แต่เปรี้ยวนึกไม่ออกว่าเคยได้ยินจากที่ไหน เหตุที่มาที่นี่เพราะดูท่าทางมันน่าจะเงียบดี เลยลองมาดู กลับจากบาหลีไม่กี่วันมีอาการตัวร้อนอยู่บ้านไม่ได้ หาเรื่องจริงๆ เรา



ท่ารถโดยสารประจำทางที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะหารถได้ยังไง ที่ไหนได้ เราก็ดูตามช่องบันไดว่า รถเราจอดช่องไหน พอถึงเวลาก็เดินลงไป รถก็จะจอดคอยอยู่เลยคะ

เรามาถึงที่เมือง Luwut ประมาณบ่าย 3 โมงก็ต่อ Ferry ค่าโดยสารไป-กลับ 10 ริงกิต ( 1 ริงกิตประมาณ 10 บ. )


ที่นั่งด้านใน Ferry ดูอึดอัดเล็กน้อย และแมลงวันเยอะมากคะ เพราะที่เมืองนี้เค้าทำพวกอาหารทะเลตากแห้งขายคะ เข้าเมืองมาก็ได้กลิ่นเลยคะ (ไม่เว่อร์นะ ได้กลิ่นจริงๆ)


ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเราก็มาถึงเกาะพังกอ ที่นี่ไม่มีรถแท็กซี่ แต่จะเป็นรถตู้สีชมพู ราคาเหมาคันละ 15 ริงกิต เราต้องนั่งรถจากท่าเรือไปที่หาด Teluk Nipah โชคดีเราเจอฝรั่งชาวเยอรมันที่เค้ามาก่อนหน้าเรา มารวมแชร์ค่าโดยสาร แถมพี่แกเก่งมากมองหาเพื่อนร่วมทางเป็นลุงกับป้าชาวสวีเดน สรุปเราได้จ่ายแค่ 3 ริงกิตต่อคน ทั้งหมด 5 คน หุหุ ประหยัด


ช่วงที่เราเดินทางเป็นปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่จะหมดเดือนรอมฏอน หรือช่วงเวลาถือศีลอดของชาวมุสลิมพอดี เราเข้าพักที่ Plam Beach Resort เจ้าของเป็นมุสลิม เธอบอกว่าช่วงนี้ไม่มีลูกค้าเลยและอีกเรื่องคือ พี่สาวของเค้าเพิ่งจะเสียชีวิตลงก่อนหน้าที่เราจะมาที่นี่ 1 วัน เธอจึงบอกขอโทษ หากจะไม่ได้อำนวยความสะดวก เราก็บอกไปว่าไม่เป็นไร สังเกตได้จากห้องพัก ตอนที่เรามามีคนญี่ปุ่นพักอยู่แค่ 2 ห้องเท่านั้น เธอให้ห้องริมกับเรา สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ ปกติราคา 95 ริงกิต แต่เปรี้ยวจ่ายแค่ 75 ริงกิตเท่านั้นคะ



ห้องพัก เป็นห้องขนาดเล็กะทัดรัดคะ



หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยก็มาเดินเล่นที่ริมชายหาด มองหาร้านอาหาร เห็นเปิดอยู่ 1 ร้านเป็นอาหารอินเดีย แต่เรากินอาหารอินเดียที่กัวลาลัมเปอร์ไปแล้ว เลยขอบายก่อน เมืองนี้เงียบเชียบ สำรวจดูเจอแค่มินิมาร์ท เปิดอยู่อีก 1 ร้าน วันนี้สงสัยต้องกินมาม่า อย่าถามถึงนักท่องเที่ยวเลยคะ ที่นี่นักท่องเที่ยวน้อยมาก เท่าที่ดูด้วยสายตาไม่น่าจะถึง ร้อยคน อิอิ แบบนี้เราชอบ






เปรี้ยวนั่งที่ริมหาดจนเย็น ก็เดินมาซื้อของกิน กลับไปกินที่ห้องพัก เรามีที่ทำน้ำร้อนมาด้วย ไม่กลัวอด ลองกินมาม่ามาเลย์ หุหุ กินรสต้มยำกุ้งก่อน จากนั้นต่อด้วยรสผัก รสชาติสู้บ้านเราไม่ได้ บ้านเราแซ่บกว่า แต่มาม่ารสผักอร่อยใช้ได้ อิ่มไปอีกวัน หุหุ


สำหรับวันนี้ Salamat Jalan แปลว่า Good bye คะ

No comments:

Post a Comment