การเดินทางในครั้งนั้นเป็นความทรงจำที่ดีมาก เราได้เจอคนบาตักตามใจหวังไว้ ไม่ใช่เจอแต่ในหนังสืออีกต่อไป เราอาศัยอยู่กับคนบาตัก เกือบ 1 เดือน ที่นี่อากาศดี ดินดีมาก ผลไม้โดยเฉพาะ สัปปะรด คะ หวานฉ่ำ พืชผักที่นี่อุดมสมบูรณ์มากๆ ที่นี่เค้ามีต้นโกโก้ที่ใช้ทำชอคโกแลตด้วย แต่หารูปไม่เจอ เอาไว้ก่อนหาเจอเมื่อไรจะเอามาโชว์ คนบาตัก หน้าตาก็ละหม้ายคล้ายกับคนไทยมากๆ นิสัยใจคอก็น่ารัก ที่นี่เจริญไปมากกว่าที่เราคิดไว้ มีชาวต่างชาติมาอาศัยอยู่บ้าง โรงแรมที่นี่มีมากกว่านักท่องเที่ยวเสียอีก เพื่อนชาวบาตักเล่าให้เราฟังว่า เมื่อก่อนนักท่องเที่ยวเยอะมา จนที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง Full Moon Party แต่ระยะหลังด้วยหลายๆสาเหตุ นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่น้อยลง จนปัจจุบันไม่มีการจัดปาร์ตี้แล้วคะ เดี๋ยวนี้มีแต่คนบอกว่า Full Moon Party ต้องที่เมืองไทย โอ้โห เมืองไทยดังมาก ขนาดคนบาตักยังทราบข่าว
เราเริ่มเดินจากหมู่บ้านตุ๊กๆ ที่เราพักอยู่ ระยะทางโดยประมาณน่าจะ 4 กม. ก็เดินเรื่อยๆสบายๆ ที่หมู่บ้านโตหมก เราก็จะซื้อของที่จำเป็น และดูสุสานราชาบาตัก เดินตลาดเรื่อยๆ หมู่บ้านโตหมกก็เป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่เป็นศูนย์กลางของการเดินทางรอบๆ เกาะ สามารถหารถโดยสารได้ง่าย และข้าวของที่จำเป็นก็จะมีขาย
เราเริ่มเดินจากหมู่บ้านตุ๊กๆ ที่เราพักอยู่ ระยะทางโดยประมาณน่าจะ 4 กม. ก็เดินเรื่อยๆสบายๆ ที่หมู่บ้านโตหมก เราก็จะซื้อของที่จำเป็น และดูสุสานราชาบาตัก เดินตลาดเรื่อยๆ หมู่บ้านโตหมกก็เป็นหมู่บ้านเล็กๆ แต่เป็นศูนย์กลางของการเดินทางรอบๆ เกาะ สามารถหารถโดยสารได้ง่าย และข้าวของที่จำเป็นก็จะมีขาย
ทางผ่านที่จะไปหมู่บ้าน Tomok
สุสานคะ เค้าจะตั้งไว้ใกล้ๆบ้าน คราวหน้าจะรวบรวมมาให้ดูว่ามากแค่ไหน
ปั๊มน้ำมัน
เรือโดยสารที่จะรับ-ส่งระหว่างฝั่งกับเกาะ ค่าโดยสาร 7000 Rp.(1000 Rp.=3 บาท)
โบสถ์ส่วนใหญ่รูปทรงก็จะคล้ายๆกัน เพราะที่นี่เคยเป็นเมืองขึ้นของดัทซ์มาก่อน อีกอย่างสมัยก่อนคนบาตักเค้ากินคนคะ ชาวดัทซ์จึงเริ่มเผยแพร่ศาสนาคริสต์ ที่นี่เลยเป็นชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย
เปรี้ยวเดินไป-กลับจากที่พักมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ก็ประมาณ 1 ชม.กว่าๆคะ แต่ที่นี่เค้าก็มีจักรยาน (100 บ.) มอเตอร์ไซด์(200 บ.) ให้เช่าคะ แต่เปรี้ยวประหยัดนะคะ เดินอย่างเดียว นอกจากไปไกลก็ค่อยเช่า แถมเจริญสัมพันธไมตรีกับเพื่อนบาตักไว้เรียบร้อยแล้ว ค่าเช่าก็ถูกลง
ปั๊มน้ำมัน
ถึงตลาดแล้วจ้า ของขายก็มีเยอะ โดยเฉพาะของที่ระลึก ของฝาก เสื้อผ้ามีเพียบที่สำคัญคือ การต่อราคา ใครที่ต่อเก่งรับรองสบาย แต่เราต่อไม่ค่อยเก่งเท่าไร ก็อย่างที่บอกว่า ที่นี่มีชาวต่างชาติมาเที่ยวน้อยลงมาก ทำให้การต่อราคาสินค้าก็ง่ายขึ้นคะ ต่อแบบครึ่งๆ เลยนะคะ เพราะเค้าจะบอกราคาสูงมากค่ะ แต่เค้าก็จะง้อลูกค้าเหมือนกัน แต่สิ่งที่เจอบ่อยคือ ขอนะ วันนี้ยังไม่มีตังค์ค่ากับข้าวเลย ขอนะๆ อะไรประมาณนี้ เรางี้ใจอ่อนทุกที เลยตัดปัญหา หาซื้อของกินอย่างเดียว
เรือโดยสารที่จะรับ-ส่งระหว่างฝั่งกับเกาะ ค่าโดยสาร 7000 Rp.(1000 Rp.=3 บาท)
โบสถ์ส่วนใหญ่รูปทรงก็จะคล้ายๆกัน เพราะที่นี่เคยเป็นเมืองขึ้นของดัทซ์มาก่อน อีกอย่างสมัยก่อนคนบาตักเค้ากินคนคะ ชาวดัทซ์จึงเริ่มเผยแพร่ศาสนาคริสต์ ที่นี่เลยเป็นชุมชนชาวคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย
เปรี้ยวเดินไป-กลับจากที่พักมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ก็ประมาณ 1 ชม.กว่าๆคะ แต่ที่นี่เค้าก็มีจักรยาน (100 บ.) มอเตอร์ไซด์(200 บ.) ให้เช่าคะ แต่เปรี้ยวประหยัดนะคะ เดินอย่างเดียว นอกจากไปไกลก็ค่อยเช่า แถมเจริญสัมพันธไมตรีกับเพื่อนบาตักไว้เรียบร้อยแล้ว ค่าเช่าก็ถูกลง
No comments:
Post a Comment